สถานที่ที่น่าสนใจตลอดเส้นทางจากกรุงเทพฯ สู่หัวหิน |
การเดินทางจากกรุงเทพฯ มายังหัวหินสามารถเลือกได้สองเส้นทาง ทางแรกขับมาตามทางหลวงหมายเลข 3 ผ่านจังหวัดสมุทรสาครและสมุทรสงคราม (หรือทางหลวง หมายเลข 4 จะผ่านจังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์) อีกเส้นทางคือ ขับตรงมาทางนครปฐมและราชบุรี โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 4 และขับตรงไปเรื่อยๆ จนถึงหัวหิน ตลอดระยะทางคุณยังสามารถแวะพักชมสถานที่ที่น่าสนใจระหว่างการเดินทางสู่หัวหิน อาทิเช่น
จังหวัดสมุทรสาคร (50 กิโลเมตร จากกรุงเทพฯ) ขับมาตามทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนธนบุรี- ปากท่อ) จะผ่านบางขุนเทียน และเมื่อมาถึงแยกมหาชัย กิโลเมตรที่ 28 ให้เลี้ยวซ้ายเข้าตัวเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาครนี้จะอยู่ติดกับแม่น้ำท่าจีน หรือที่เรียกกันอีกชื่อคือ เมืองมหาชัย ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับคลองที่ไหลไปบรรจบกับแม่น้ำท่าจีน อาชีพของชาวบ้านแถวนี้คือ การประมงและทำเกลือ สถานที่น่าสนใจที่สามารถเข้าไปชมได้คือ บ่อเลี้ยงกุ้งและนาเกลือในตัวเมือง ทุกพื้นที่จะเต็มไปด้วยเกลือขาวบริสุทธิ์กับกังหันลม เป็นที่ประทับใจของผู้คนที่มาเยือน ตลาดมหาชัยเป็นศูนย์กลางของการติดต่อค้าขาย โดยเฉพาะอาหารทะเลสดๆ เนื่องจากบริเวณนี้มีท่าเรืออยู่หลายท่า คุณยังสามารถเช่าเรือเพื่อล่องไปในคลองโคกคาม เพื่อสัมผัสบรรยากาศและวิถีชิวิตของผู้คนที่นี่ได้อย่างใกล้ชิดอีกด้วย
จังหวัดสมุทรสงคราม(72 กิโลเมตร จากกรุงเทพฯ) เป็นที่ประสูติของพระบาทสมเด็จพระรามาธิบดี รัชกาลที่ 2 พระองค์ทรงได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก ทรงมีพระอัฉริยภาพที่โดดเด่นทางด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม จากรุงเทพฯ ให้คุณขับมาตามทางหลวงหมายเลข 35 จะผ่านแยกมหาชัย- นาเกลือ เมื่อมาถึงกิโลเมตรที่ 64 เลี้ยวขวาเข้าไปยังตัวเมืองสมุทรสงคราม สถานที่ที่จะแนะนำให้ไปเยี่ยมชมได้แก่ สวนสาธารณะรัชกาลที่ 2 ที่อำเภออัมพวา ภายในจะมีบ้านไม้ทรงไทยอยู่ 5 หลัง ที่ใช้เป็นห้องสมุดและพิพิธภัณฑ์ สถานที่ต่อมาคือดอนหอยหลอด อยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง เป็นที่เก็บหอยหลอดเวลาที่น้ำลง และไม่ควรพลาดอาหารทะเลสดๆ จากร้านอาหารที่มีให้เลือกมากมาย สิ่งที่มีชื่อเสียงอีกอย่างหนึ่งของจังหวัดสมุทรสงครามนี้ คือการเข้าพักแบบโฮมสเตย์ เป็นการใช้ชีวิตอยู่กับชาวบ้านในพื้นที่จริงๆ ทำให้คุณได้เรียนรู้และเข้าใจในวิถีชีวิตประจำวันของพวกเขาได้เป็นอย่างดี
จังหวัดนครปฐม (56 กิโลเมตร จากรุงเทพฯ) เป็นจังหวัดที่มีความสำคัญในยุคประวัติศาสตร์ของไทย ช่วงยุคทวาราวดี (ศัตวรรษที่ 11-13) เดินทางจากกรุงเทพฯ โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ไปยังนครปฐม สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น พระปฐมเจดีย์ ที่ถือเป็นเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก (สูง 120.45 เมตร ความกว้างรอบฐาน 234.75 เมตร) แวะสักการะบูชาพระพุทธรูปนามว่า พระร่วงโรจนฤทธิ์ นอกจากนี้ยังมีพระราชวังสนามจันทร์และอนุสรณ์สถานย่าเหล (อยู่ห่างจากพระปฐมเจดีย์ไปทางใต้ 2 กิโลเมตร) พระราชวังสนามจันทร์ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2450 โดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงมีพระราชดำรัสให้สร้างพระราชวังแห่งนี้ ส่วนอนุสรณ์สถานย่าเหล สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงสุนัขตัวโปรดของพระองค์ที่ถูกชายเสียสติคนหนึ่งยิงตาย นอกจากนี้ยังมีสวนสัตว์สามพรานที่มีการแสดงโชว์ความสามารถของช้าง และโชว์ที่น่าหวาดเสียวระหว่างคนกับจระเข้ และอื่นๆอีกมากมายที่ต้องไปชมด้วยตนเอง ต่อมาคือบริเวณสวนพุทธมณฑล ที่มีพื้นที่ร่มรื่นใต้เงาไม้กว่า 2,500 ไร่ เป็นที่พักผ่อนทำกิจกรรมของครอบครัวได้เป็นอย่างดี อีกที่คือพิพิธภัณฑ์ Thai Human Imagery Museum เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกใน ประเทศไทยที่มีการแสดงผลงานในลักษณะนี้ ส่วนสำคัญของพิพิธภัณฑ์นี้คือการแสดงวิถีชีวิตของไทย ภาพของพระสงฆ์ และพระมหากษัตริย์ในราชวงศ์จักรี สิ่งสุดท้ายที่ไม่ควรลืมซื้อกลับไปเป็นของฝากเมื่อมาถึงนครปฐมคือส้มโอหวานอร่อย หรือมะพร้าวแล้วแต่ความชอบ
จังหวัดราชบุรี (100 กิโลเมตร จากกรุงเทพฯ) โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 4 เมื่อขับมาจะผ่าน บางแค อ้อมน้อย อ้อมใหญ่ และนครปฐม มีชื่อเสียงโด่งดังด้านการผลิตโอ่งและเครื่องใช้เซรามิกต่างๆ ถือเป็นเมืองประวัติศาสตร์อีกเมืองหนึ่งในยุคของทวาราวดี สถานที่ที่มีชื่อเสียงในจังหวัดราชบุรีได้แก่ ตลาดน้ำดำเนินสะดวก ตลาดน้ำแห่งน้ำจะเต็มไปด้วยสีสันของเรือที่พายมาขายผลไม้ ของกินของใช้ต่างๆ และยังเป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาชมและถ่ายภาพบรรยากาศกลับไปเป็นที่ระลึก ตลาดจะเปิดตั้งแต่ก่อน 7 โมงเช้า จนถึงเกือบเที่ยง สถานที่ต่อมาคือบ้านคูบัวหลวง เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยธาราวดีเช่นกัน ถัดไปทางตะวันตกของตัวเมืองราชบุรีในอำเภอโพธารามจะมีเขาชงพราน เป็นที่รู้กันดีว่าในถ้ำของเขาแห่งนี้เป็นที่รวมตัวของค้างคาวนับล้านตัว และจะบินออกมาทั้งฝูงเพื่อหาอาหารในตอนเย็น ต่อมาคือถ้ำเขาบิน ภายในถ้ำจะพบหินงอก หินย้อยดูคล้ายนกอินทรีแผ่ปีกของมัน น้ำพุร้อนโป่งกระทิง ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 5 เมตร มีฟองอากาศโผล่ขึ้นมาจากบ่อน้ำตลอดเวลา สุดท้ายคือ บ่อน้ำพุร้อนบ่อคลอง นักท่องเที่ยวสามารถเล่นน้ำพุร้อนที่นี่ได้ อุณหภูมิของบ่อน้ำพุร้อนนี้อยู่ประมาณ 120-136 ฟาเรนไฮต์
วัดในจังหวัดเพชรบุรี
วัดกำแพงหลัง ตั้งอยู่ในตัวเมือง ก่อนหน้านี้ถูกใช้เป็นที่สักการะบูชาของชาวเขมร ต่อมาได้เปลี่ยนให้เป็นวัดในพระพุทธศาสนา และได้มีการก่อสร้างอุโบสถ อย่างไรก็ตามรูปแบบของสถาปัตยกรรมก็ยังคงไว้ตามแบบของเจดีย์เขมร ซึ่งผนังของวัดก็ทำมาจากหินทราย
วัดใหญ่สุวรรณาราม เป็นวัดที่มีความสำคัญมากของจังหวัด อยู่ห่างเพียง 1 กิโลเมตรจากตัวเมือง พระอุโบสถใหญ่จะมี่หน้าต่าง ภายในมีภาพวาดฝาผนังที่มีอายุยาวนานกว่า 300 ปีบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องเทพ ใช้เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจหลายอย่าง ครั้งหนึ่งเคยอยู่ที่พระบรมหาราชวังของอยุธยา อุโบสถทำด้วยไม้สักทั้งหลังและตกแต่งด้วยไม้แกะสลักอย่างสวยงามโดยเฉพาะที่บานประตู อีกทั้งภายในอุโบสถจะเห็นงานไม้แกะลักอย่างบรรจงซับซ้อนบนบัลลังก์สำหรับพระสวดและหุ้มด้วยทองสไตล์แบบบางกอก
วัดเขาบันไดอิฐ ตั้งอยู่บนเขาเตี้ยๆ มีความสูงถึงยอดเขาประมาณ 121 เมตร อยู่ห่างจากเขาวังมา 2 กิโลเมตร ถือเป็นวัดที่เก่าแก่มากอีกวัดหนึ่ง สร้างขึ้นเมื่อสมัยอยุธยา ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ฝึกทำสมาธิของพระเจ้าแผ่นดิน บริเวณข้างๆวัดเขาบันไดอิทนี้มีถ้ำอยู้หลายถ้ำขนาดใหญ่ด้วยกัน บางแห่งก็อยู่ใต้เขา
วัดมหาธาตุวรวิหาร เป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานคู่กับจังหวัดเพชรบุรี พื้นที่ในจังหวัดได้ถูกแบ่งอย่างเป็นสัดส่วน คือส่วนของพื้นที่ตัวจังหวัด พื้นที่สำหรับวัดต่างๆ และสังฆวัติ หรือพื้นที่เขตอาศัยของพระสงฆ์ ความน่าสนใจของสถาปัตยกรรมของอารามภายในวัด คือการออกแบบก่อสร้างยอดพระปรางค์ห้าชั้น ตามแนวความเชื่อของนิกายมหายาน โดยแต่ละชั้นมีการสลักเป็นลวดลายแตกต่างกัน และถอดแบบมาจากยอดเจดีย์ห้าชั้นของจังหวัดนครศรีธรรมราช และนำมาประยุกต์ใช้กับพระปรางค์ในเวลาต่อมา
|